หลับเถิดข้ารับใช้ฟ้า ปวงประชาธิปตาย
ขึ้นหัวข้อมาเช่นนี้ ย่อมมีความหมาย…
จะว่าไป ข้าพเจ้ายอมรับว่า หัวข้อเรื่องวันนี้ เลียนแบบมาจากคำพูดบนเวทีชุมนุม ที่ว่า “หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มภัย” เป็นการเหน็บแนมเหล่าทหาร ที่ยินยอมให้รัฐบาลทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ แม้ว่าสิ่งต่างๆเหล่านั้นจะหมิ่นเหม่ต่อการโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังที่ผ่านมา ตั้งแต่เรื่องคุณจักรภพ, ขบวนการโจมตีสถาบัน ไม่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญฯ-เว็บไซต์โจมตีราชวงศ์-รัฐบาลปกป้องผู้โจมตีสถาบัน ฯลฯ
คิดว่าคำพูดบนเวที คงเสียดแทงเข้าไปในใจดำของทหารจำนวนมาก โดยเฉพาะในทหารระดับล่าง ที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ทำอะไรไม่ได้มาก ต้องเชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชาเป็นหลัก
คำพูดเดียวกันนี้ยังสะเทือนใจประชาชนจำนวนมาก ที่ส่วนหนึ่งล้วนมาชุมนุมกันเพื่อขับไล่รัฐบาลที่ไร้ความชอบธรรมในการบริหารประเทศ
สะเทือนใจ ในความพินาศย่อยยับของประเทศไทย
เพราะว่ารัฐบาลอ้างเสียงประชาชนจำนวนมากที่เลือกเข้ามา โดยไม่สนใจประชาชนจำนวนมากที่ไม่ชอบใจรัฐบาลเช่นกัน
กลับมาดูชื่อเรื่องของข้าพเจ้านี้ แม้จะเลียนแบบมา กลับเป็นคนล่ะความหมาย
เป็นความหมายโดยรวมของปัญหาประเทศชาติทุกวันนี้
ทุกวันนี้ ปัญหาของประเทศชาติ ที่มีมากมายมหาศาลนั้น ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา สาธารณสุข ฯลฯ กลับไม่ได้มีครั้งใดที่ร้ายแรงถึงเพียงนี้อีกแล้ว
เพราะ มิใช่เพียงแค่เรื่องของการทุจริตมหาศาล อีกต่อไปแล้ว
มิใช่เพียงแค่เรื่องของนอมินี ที่ใช้อำนาจล้นฟ้าเพื่อพวกพ้อง
มิใช่แค่เรื่องโจมตีสถาบันสูงสุด เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง “ยุทธการพลิกฟ้า คว่ำแผ่นดิน”
แต่กลายเป็นเรื่องที่หนักกว่านั้น คือ “การเสียแผ่นดิน”
นำไปสู่การ “การสูญเสียอธิปไตย”
ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ปี2475 ถามว่า มีครั้งใดที่ประเทศไทยเสียแผ่นดินบ้างหรือไม่…
มีครั้งใดที่สูญเสียชิ้นส่วน ของด้ามขวานทองคำแห่งนี้หรือไม่…
ครั้งนี้ กับเรื่องที่ถือว่าร้อนแรง ร้ายกาจ ที่สุดในตอนนี้ “ปราสาทพระวิหาร” จึงเป็นเรื่องพิสูจน์ชัดเจนตอบข้อสงสัยว่า รัฐบาลไทยยอมเสียตัว “ประสาทพระวิหาร” ให้เป็นของกัมพูชา เพื่ออดีตนายกรัฐมนตรีที่กำลังจะเข้าไปลงทุนธุรกิจ และประโยชน์มหาศาลในประเทศแห่งนั้น ใช่หรือไม่?
โดยมีผู้จัดการเบ็ดเสร็จ คือ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ ที่เป็นทนายความหน้าหอของอดีตนายกรัฐมนตรีคนนั้น นั่นเอง ร่วมมือกับอีกหลายฝ่าย จนจดทะเบียนเป็นมรดกโลกเบ็ดเสร็จ เขมรไชโย?
ประชาชนไทย คนเฒ่า คนแก่ น้ำตานองกันทั้งประเทศ รัฐบาลนี้ทำสิ่งนี้เพื่อใคร ประชาชนไม่เคยได้มีฉันทามติให้ยกปราสาทพระวิหาร ไปเป็นของกัมพูชาเลยแม้แต่น้อย
คุณย่าของข้าพเจ้ายังจำได้ดีกับ ถ้อยคำแถลงของ อดีตนายกรัฐมนตรีที่เป็นถึงจอมพล สมัยสี่สิบห้าสิบปีก่อน แถลงด้วยความเจ็บช้ำ น้ำตาตกใน ถึงกรณีคำตัดสินของศาลโลก ที่ประชาชนชาวไทยไม่เคยยอมรับ ว่าเราสูญเสียปราสาทแห่งนี้ ให้แก่ผู้ใด และทางขึ้นปราสาทก็อยู่ในฝั่งไทย จะมาแอบอ้างว่าปราสาทเป็นของผู้อื่นได้อย่างไร
ข้ออ้างจำนวนมากที่รัฐบาลใช้ ว่าไทยไม่เสียดินแดน ไทยไม่เสียประโยชน์ กลับฟังไม่ขึ้นเลย ในสายตาประชาชน
เพราะเรื่องนี้ ความสูญเสียที่เกิดขึ้น ถือว่าเสียชาติ เสียแผ่นดิน
จะกลายเป็นประเด็นความขัดแย้งระหว่างชาติเลยทีเดียว
บนผืนแผ่นดินที่บรรพบุรุษ ของพวกเรา นับพันปี ได้ต่อสู้กันมาเพื่อให้เรามีประเทศไทยทุกวันนี้
“เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่ สละเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี เถลิงประเทศชาติไทยทวี มีชัย ชโย” เพลงชาติที่ต่อไปเราจะร้องได้ไม่เต็มปากอีกแล้ว
ประโยชน์ของคนเพียงไม่กี่คน กับความสูญเสียของคนทั้งชาติ
แล้วเราจะมีหน้าบอกลูกหลานไทยต่อไปได้อย่างไร ว่าเราไม่เคยเสียเอกราช เสียแผ่นดิน
มาพูดถึงเรื่องการสูญเสียอธิปไตย
อำนาจอธิปไตย หมายถึงอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศ และเป็นอำนาจทางกฎหมายที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไว้คอยบังคับประชาชนให้กระทำ หรืองดเว้นการกระทำสิ่งใด
อำนาจสูงสุดของระบอบประชาธิปไตย ก็คือ อำนาจที่มาจากปวงชน
แต่ประชาธิปไตยไทยแบบปลอมๆ ที่ยังขึ้นอยู่กับอำนาจทุน ซื้อเสียงเบ็ดเสร็จได้นั้น จึงทำให้อธิปไตยของประเทศนี้ ขึ้นอยู่กับนักลากตั้ง ที่มีเงินมาก ก็ซื้อเสียงมาลงคะแนนหย่อนบัตร แล้วเข้าไปกอบโกยในสภา
แม้ว่าของเราจะพยายามเลียนแบบฝรั่ง คือจะพยายามแบ่งอำนาจเป็น อำนาจรัฐ-ฝ่ายบริหาร อำนาจการออกกฎหมาย-นิติบัญญัติ และ อำนาจศาล-ฝ่ายตุลาการ ก็ตาม
แต่อำนาจรัฐ และอำนาจนิติบัญญัติ ถูกซื้อได้ด้วยอำนาจทุนจนหมดเสียสิ้นแล้ว
การค้ำยันอำนาจทุกวันนี้ เลยกลายเป็นเรื่องการฝากความหวังไว้ที่ฝ่ายตุลาการเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งก็ยังมีความเชื่อกันว่า บางส่วนซื้อได้… เช่นกัน พวกชนชั้นกลางก็รอลุ้นถึงความยุติธรรมภายใต้ “ฟ้า” เมืองไทย
การเสียปราสาทพระวิหาร ครั้งล่าสุดนี้ ยิ่งตอกย้ำการสูญเสียอธิปไตย
เพราะแม้แต่อำนาจทุนที่ผ่านมาทั้งหลายทั้งปวง ต่างไม่มีกล้าก้าวล่วงไปถึงเรื่องการเฉือนแผ่นดิน แลกประโยชน์กับกลุ่มทุน
ครั้งนี้ จึงถือว่าหนักหนาสาหัสมาก
ล่าสุดข้าพเจ้าจึงขอชื่นชม และสรรเสริญเป็นอย่างยิ่งกับกรณี ข้าราชการท่านหนึ่ง คือ ท่านพลเอกปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ที่ออกมาเรียกร้องทหารออกมาร่วมชุมนุม ปกป้องพระมหากษัตริย์ จากการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และเรื่องที่ท่านเคยทำหนังสือคัดค้านเรื่องขึ้นทะเบียนพระวิหาร
ถ้าพูดโดยไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่ฝักใฝ่ รักในหลวง ถือว่า นี่คืออีกหนึ่งทหารของพระราชา
ดังนั้น รัฐบาลยิ่งต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบ มิใช่เพียงถือว่าเสียงในสภาเยอะกว่า จะยกปราสาทให้ใครก็ได้
ก็ขอทิ้งท้าย ว่า…
ถ้า ข้าราชการทุกฝ่าย ทุกเหล่า ข้าในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ข้าของแผ่นดิน ยังยอมเรื่องนี้กันอยู่ได้
ก็ควรยกประเทศนี้ให้เป็นของ คนที่ได้ประโยชน์จากการเฉือนแผ่นดินครั้งนี้เลย ไม่ดีกว่าหรือ
ตอกปิดฝาโลงศพประเทศไทย
บนน้ำตา เลือดเนื้อ ของประชาชน
ประชาธิปตาย…
PiiE
โหย
อ่านแล้ว เศร้า TT^TT
สิริโชค
หวัด ดี ครับ พี่ กล้า
ไม่ เจอ กาน เลย สบาย ดี ป่าว ครับ
พอ ดี ไม่ ได้ เข้า สเปส นาน แล้ว
space นี้ เหมือน หนัง สือ พิม เลย
ข่าว การ เมือง เพียบ โฮะ ๆ
Homepage
… [Trackback]…
[…] There you will find 8139 more Infos: bloggla.com/?p=75 […]…