Antisocial
ชเนษฎ์ ศรีสุโข
ลงวารสารปฏิวัติความคิด ติดอาวุธปัญญา ฉบับ 18 เดือนพฤษภาคม 2553 www.demo-crazy.com
บทความนี้ได้แรงบันดาลใจจากผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่งเมตตาบอกว่าผมเป็นพวก Antisocial ครับ
คำๆนี้ Anti-social แปลตรงตัวภาษาไทย คงหมายถึง พวกต่อต้านสังคมครับ หลายคนก็เอาคำนี้ไปกล่าวหากลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองในช่วงเร็วๆนี้เช่นกัน ดังนั้น จึงอยากเขียนถึงความหมายของคำนี้ในทางการแพทย์น่ะครับ เพื่อให้เห็นการใช้คำนี้ในความหมายเชิงวิชาการ ที่ค่อนข้างจะรุนแรงพอสมควรนะครับ
Antisocial เป็นเรื่องของบุคลิกภาพครับ ซึ่งถ้าเป็นบุคลิกภาพเด่นในด้านนี้เราจะใช้คำว่า Antisocial personality trait แต่ถ้าบุคลิกภาพเปลี่ยนแปลงจนผิดปกติเราเรียก Antisocial personality disorder (อยู่ในกลุ่มบุคลิกภาพแบบ Cluster B) เป็นโรคที่วินิจฉัยในวัยผู้ใหญ่ครับ
Antisocial หมายถึง ลักษณะคนที่มีการกระทำกระทบหรือละเมิดสิทธิของผู้อื่น ผิดปกติวิสัยของคนทั่วไป ผิดค่านิยม และผิดกฎหมาย มักหักห้ามใจไม่ได้และไม่รู้สึกผิดแต่อย่างใด
จุดเริ่มต้นของบุคลิกภาพเช่นนี้ เชื่อกันว่าเริ่มมาตั้งแต่วัยเด็ก ในกลุ่มโรค Disruptive behavioral disorders ซึ่งประกอบด้วย Oppositional defiant disorder และ Conduct disorder มักเกิดในประชากรกลุ่มเด็กผู้ชายที่มีประวัติการถูกทารุณในวัยเด็ก
โดยเชื่อกันว่าคนที่เป็น Antisocial ในวัยผู้ใหญ่ จะเริ่มต้นจากการเป็น Oppositional disorder ในวัยเด็กเล็ก
เด็กกลุ่มโรคดังกล่าวจะมีลักษณะพฤติกรรมมองว่าคนอื่นเลวร้ายและเป็นศัตรูไปเสียหมด ไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่หรือการสอนสั่งใดใด ชอบเถียงคำไม่ตกฟาก ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้ พฤติกรรมรุนแรงในเด็กอาจเริ่มจากการชอบรังแกสัตว์ตัวเล็กๆ บี้แมลง ดึงหางจิ้งจก ฯลฯ ต่างเป็นๆ เป็นระยะเวลา 6 เดือนขึ้นไป
หลังจากเป็นกลุ่มโรคดังกล่าวมาพอประมาณแล้ว พอเป็นวัยเด็กโตและวัยรุ่น ก็จะเปลี่ยนเป็นกลุ่มโรค conduct disorder ผู้ป่วยจะมีพฤติกรรมที่ละเมิดสิทธิของคนอื่นๆตลอดเวลา หรือกระทำรุนแรงอย่างผิดปกติวิสัยของคนวัยเดียวกัน กระทำซ้ำๆมากกว่า 1ปี พฤติกรรมรุนแรงที่ว่าอาจมีตั้งแต่การข่มขืน การจี้ปล้น การฆ่าสัตว์ต่างๆ หรือพฤติกรรมที่ไม่จัดว่ารุนแรงมาก อาทิเช่น การขโมยของ การโกหก การชอบแกล้งผู้อื่น การสร้างความรำคาญให้คนอื่นๆ
ถ้าไล่ตามระดับอายุ จะได้ดังแผนภาพที่แสดงง่ายๆ ข้างล่างนี้ 1.เด็ก 2.วัยรุ่น 3.ผู้ใหญ่
ดังนั้น พอเป็นผู้ใหญ่ จึงเป็น Antisocial personality disorder ซึ่งพฤติกรรมความรุนแรงก็จะมากขึ้น คนเป็นโรคนี้จำนวนมากเกี่ยวพันกับการกระทำผิดกฎหมาย จึงได้รับข้อหาและไปอยู่ในสถานกักกัน ในต่างประเทศก็มีการวิจัยในสถานกักกันต่างๆ พบว่ามีอาชญากรเป็นกลุ่มโรคนี้ค่อนข้างมากครับ
การรักษาใช้การบำบัดพฤติกรรมในระดับบุคคล ครอบครัว และจิตบำบัดครับ
จึงขอจบบทความไว้เท่านี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่สาธารณชนและผู้ใหญ่ใจดีไม่มากก็น้อยครับ หากผิดพลาดประการใด รบกวนส่งคำแนะนำ-ติชมได้ที่ chanesd@gmail.com ครับ
Sirichai
ถ้างั้นน้องกล้าก็ไม่ได้เป็นพวกantisocialตามนิยามที่ให้ไว้หรอกนะ มันเป็นแค่ความเห็นที่แตกต่าง นานาจิตตังก็เท่านั้นเอง Don’t be serious. บางทีอาจต้องย้อนถามโต้กลับไปว่า แล้วสิ่งที่สังคมคนส่วนใหญ่ตั้งเอาไว้ว่าต้องเป็นแบบนี้แบบนั้น ถ้าเห็นแตกต่างไปจากที่ว่านี้ ถือว่าผิดเพี้ยนไปและไม่ถูกต้อง ทีนี้มันจริงแล้วเหรอว่าสิ่งที่เรายึดถือเป็น gold standardในตอนนี้น่ะ มันเป็นgold standardจริงๆ เหมือนทางการแพทย์ที่จะยึดสิ่งใดสิ่งหนึ่งสำหรับใช้วินิจฉัย ซึ่งก็มีหลายครั้งพบว่าปัจจุบันนี้มันไม่น่าจะใช่gold standardอีกต่อไปแล้ว พี่ว่าตอนนั้นท่านคงไม่สบอารมณ์ที่เห็นผู้อ่อนวัยกว่าคิดเห็นไม่เหมือนกับที่ท่านคิด ก็คงหงุดหงิดไปงั้นเองล่ะ สรุปว่า ถ้าเป็นงั้นจริง ก็คงไม่มาเป็น นศพ.แสนอดทน แล้วยังมีน้ำใจเขียนบทความดีๆแบบนี้อีก ปีนี้เป็น นศพ. (นักศึกษาแพทย์) แต่อีกไม่ถึงปีก็จะได้เป็น พนศ. (แพทย์นักศึกษา…อย่างไม่รู้จบ) มุ่งมั่น หนักแน่น อดทน ท่องไว้ในใจ เหมือนที่อาจารย์ของพี่กล่าวไว้เสมอครับ
Gin
ขอบคุณมากครับพี่บทความนี้คงเกิดจากความน้อยใจเล็กน้อยล่ะครับ แต่ก็ยังเคารพท่านเช่นเดิมครับ ผมไม่โกรธแค้นใครนานครับ นับวันจะยิ่งแปลก คือคิดถึงแต่เรื่องดีดีของคนที่ผ่านมาผ่านไปมากขึ้นขอบคุณอีกครั้งครับพี่
URL
… [Trackback]…
[…] Read More here: bloggla.com/?p=411 […]…