สุขสันต์วันเกิด
โดย ชเนษฎ์ ศรีสุโข ตีพิมพ์ใน วารสาร www.demo-crazy.com ฉบับสิงหาคม 2552[chanesd@gmail.com นักศึกษาแพทย์ปี 5 ม.รังสิต-รพ.ราชวิถี]
ทุกวันนี้ การเดินไปเดินมาแถวอนุสาวรีย์ชัยฯ ทำให้ผมได้เห็นชัดมากขึ้น ถึงสิ่งหนึ่ง…
กระแสของโลกที่ไหลไป ผู้คนที่เดินสวนกันไปมา ทุกคนต่างหน้านิ่วคิ้วขมวดมาก ท่านผู้อ่านสามารถทดลองมาเดินเล่นแถวอนุสาวรีย์ฯและนับจำนวนคนที่หน้านิ่วคิ้วขมวดดูได้นะครับเกือบทุกคนครับ พลันนึกถึงคำพูดของ พญ.ชัญวลี ที่บอกว่า พวกเราคนบ้านนอก(คนต่างจังหวัด) กลับมีอารมณ์ที่ดี แจ่มใสกว่าคนในเมืองกรุง ที่เป็นเช่นนี้อาจเพราะอากาศเมืองกรุงร้อน อาจเพราะชีวิตที่แข่งขัน อาจเพราะความเครียดทั้งด้านครอบครัว การงาน เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ฯลฯ
ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่อย่างไรครับ และ การเห็นผู้คนหน้านิ่วคิ้วขมวดนี่เอง เป็นสิ่งคอยเตือนผม ทุกครั้งที่หน้าบึ้งตึง หน้าเครียด ขมวดคิ้ว ให้กลับมาพยายามทำอารมณ์ให้ดี ไม่เครียดอยู่เสมอ
วันที่27กรกฎาคม ที่ผ่านมานี้เป็นวันคล้ายวันเกิดน้องชายคนสุดท้องของผมครับ ที่บ้านของเราไม่ได้มีการจัดพิธีให้พระสงฆ์ มาสวดชัยมงคล หรือจ้างให้ประชาชนหลายหมื่นหลายแสนทั่วประเทศร่วมพิธีกรรมหงายบาตร ตัดตอนกรรมแต่อย่างไร
พอถึงวันเกิดของใครสักคนในบ้านของเรา สิ่งที่ทำให้เกิดความประทับใจ และรักกันยิ่งขึ้นไป คือเพียงแค่เราได้ประชุมกัน ได้พูดคุยกันครับ ทุกคนจะผลัดกันรำลึกถึงเจ้าของวันเกิด และกล่าวคำอวยพรเนื่องด้วยความรัก ความรู้สึก ความหวังดี รวมไปถึงการชื่นชมสิ่งที่กระทำดีอยู่แล้ว และแนะนำเพิ่มเติมในสิ่งที่ยังขาดไปบ้าง หรือสามารถทำให้ดียิ่งขึ้นได้อีก เหล่านี้จัดเป็นงานวันเกิดที่ยอดเยี่ยมที่สุดของบ้านเรา โดยไม่ได้มีอาหารรสเลิศ ไม่มีเค้กเทียน ไม่ได้อยู่ในโรงแรมหรูแถบตะวันออกกลางแต่อย่างไร
ระยะหลังนี้เมื่อนักเรียนทุกคนโตขึ้น แยกย้ายศึกษาในหลายจังหวัด บ้านเราก็ยังมีการประชุมวันเกิดอยู่ โดยประชุมกันผ่านโทรศัพท์ครับ
นอกจากงานวันเกิดแล้ว เป็นธรรมเนียมของบ้าน ตั้งแต่สมัยผมอายุประมาณแปดขวบ นักเรียนทุกคนเป็นเด็กเล็กมาก ต้องมีการประชุมกันในบ้านทุกสัปดาห์ รวมถึงในโอกาสสำคัญต่างๆ เช่นวันแม่ วันพ่อแห่งชาติ เป็นต้น ในการประชุมกันนี้ท่ามกลางบรรยากาศที่ผ่อนคลาย คุณพ่อคุณแม่ได้สร้างเสริมประชาธิปไตยให้ลูกๆ กล่าวคือให้อิสรเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะถูกต้องเพียงใด โดยคุณพ่อผู้ริเริ่มซึ่งเป็นประธานที่ประชุม จะยกประเด็นขึ้นมาเป็นวาระการประชุม และให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นก่อน อาทิเช่น นักเรียนมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับ คำว่า “ความอดทน”, “ความขยันหมั่นเพียร” หรือยกตัวอย่างที่ทำให้นักเรียน สมัยเป็นเด็กเล็กๆคิด เช่น หากรองเท้าตกในแม่น้ำ เราจะทำเช่นไร จะลงไปเก็บไหม? ฯลฯ จนพัฒนาไปถึงเรื่องอุดมการณ์ การทำดี ทำประโยชน์ ให้ตนเองมีคุณค่าแก่สังคม อยู่เสมอ
เวลาแสดงความคิดเห็น จะให้เริ่มต้นตั้งแต่น้องคนเล็กสุดยันพี่ชายคนโต หลังนักเรียนพูดจบแล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็จะแสดงความเห็นแฝงข้อคิดและคำสอนจากผู้ใหญ่ นี่เป็นการเรียนรู้โดยให้นักเรียนได้คิด พิจารณาก่อน และเชื่อในสิ่งที่ได้ไตร่ตรองเป็นอย่างดีแล้ว และได้อีกเรื่องหนึ่งคือเมื่อโตมา ไม่แปลกเลยที่นักเรียนแต่ละคนจะพูดเก่ง ช่างคิด ช่างทำ ทำกิจกรรม ต่างๆ กันมากมาย จนพ่อแม่ปวดหัวไปหมด
น้องคนสุดท้องผมชื่อเกนครับ ปัจจุบันเป็นนักศึกษาแพทย์ที่เชียงใหม่ เกนเป็นเด็กที่ฉลาดใฝ่รู้มากมาแต่ไหนแต่ไร แข่งขันรางวัลใดใด ทั้งวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ การแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ ฯลฯ ตลอดจนกระทั่งหมากรุก จะได้รางวัลตลอด ทั้งระดับจังหวัด ระดับภาค ฯลฯ และตอนหลังสิ่งที่ผมยินดีมาก คือเกนได้ฝึกจิตใจ เรียนรู้กับเครือข่ายจิตวิวิฒน์ (หากผู้สนใจ ลองค้นหา เรื่องจิตตปัญญาศึกษา ที่มี อ.หมอประเวศ อ.ประสาน อ.ระพี อ.เอเชีย พระอาจารย์ปราโมชย์ ฯลฯ ทำกันอยู่ และตอนนี้มหาวิทยาลัยมหิดลได้ผลักดันเป็นวาระมหาวิทยาลัย) ทำให้เกนเข้าใจตนเองมากขึ้นเข้าใจความเป็นจริงของตัวเรา ที่ปฏิบัติเพื่อไม่ยึดถือในสิ่งที่เรามองเห็น เราได้ยิน เราสัมผัส รูป รส ไม่ยึด กลิ่น เสียง ต่างๆ ว่าเป็นของเรา ไม่ยึดติดลาภ สรรเสริญ
เกนเข้าใจโลก และมีความสุขได้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นที่รักแก่บุคคลรอบกาย เป็นคนจิตใจกว้างใหญ่ไพศาล เสียสละและทำประโยชน์ให้แก่สังคมที่อยู่ ต่างจากใครบางคนในต่างแดนที่คิดว่าตนยิ่งใหญ่ ยังใฝ่ฝันรอวันศักดินาล่มสลาย ทั้งที่ตนเองเป็นโรคร้ายทั้งกาย ใจ จากการกระทำ กรรมที่ตนเองได้ทำไว้มาโดยตลอด
เนื่องในโอกาสวันเกิดน้องเกน ที่ผมรักมาก สิ่งที่ขอกล่าวในบทความนี้ (นอกเหนือจากกล่าวส่วนตัว) ขอให้เกน รวมถึงผู้ที่มีจิตกุศล ปิติในการอ่านบทความนี้ มีดวงตาเห็นและเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงสภาพความจริงของชีวิต ของสังคม มีความสุขในการใช้ชีวิตอย่างเปี่ยมปัญญา คือ บริสุทธิ์ด้วยการกระทำดีรักษาการทำดี เกิดการระลึกรู้สภาวะจิตอยู่เสมอ เกิดสมาธิ และการตัดสินใจถูกต้องในการกระทำเรื่องต่างๆ ด้วยเทอญ
สาธุ…•
albert
วันเกิดที่บ้านผมก็ง่ายๆครับ พอถึงวันเกิดของใครเราก็จะนัดไปกินข้าวกันทั้งครอบครัว (ที่บ้านมี 8 คน ปีหนึ่งก็จะได้เจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาอย่างน้อย 8 ครั้ง 555)คนอื่นอาจจะจำไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็มีคนในครอบครัวเราจำได้ (แต่ผมนี่ตัวดีของบ้านเลยครับ จำวันเกิดคนในบ้านไม่ค่อยได้ ต้องให้น้องๆมันมาเตือน ทีวันเกิดสาวๆนี่จำได้แม่น ฮา…)
PiiE
สุขสันต์วันเกิดนะ น้องเกน : )