สสส ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ จริงหรือ? ข้อความจากปอด
Chanesd@Srisukho.com
บทความครั้งแรก วันที่ 24 กันยายน 2558
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9580000107799
ไม่นานมานี้ ได้มีโอกาสชมภาพยนตร์สั้น “The Message from the Lungs” แปลเป็นไทยได้ว่า ข้อความจากปอด
ภาพยนตร์สั้นตัวนี้ เป็นโฆษณารณรงค์เลิกสูบบุหรี่ที่สร้างสรรค์ และได้รับการชื่นชมระดับนานาชาติ เรื่องของเรื่องเริ่มด้วย การเล่าถึงหมึกที่มีสีดำ เป็นหมึกพิเศษที่ใช้เวลากว่า 50 ปี ของชีวิตคนๆหนึ่งจึงจะผลิตมาได้ และ เฉลยในภายหลังว่า ทีมนักวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำปอดของคนสูบบุหรี่มาสกัดเป็นหมึกดำออกแสดง เป็นข่าวทางสื่อสารมวลชนเพื่อรณรงค์ให้คนเลิกสูบบุหรี่
บุหรี่ จัดเป็นภัยคุกคาม ที่ทำลายสุขภาพคนในประเทศเราเป็นอย่างมาก ทางการแพทย์บอกว่าบุหรี่ทำให้แก่เร็ว สร้างริ้วรอย เป็นสาเหตุของมะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ โรคปอด เช่นถุงลมโป่งพอง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ และ อีกหลากหลายโรค หลายคนชมคลิปแล้วคงสะท้อนใจ โดยเฉพาะผู้สูบบุหรี่เอง แต่การจะสะท้อนใจได้ไปจนถึงการมีจิตสำนึก พยายามเลิกบุหรี่ได้ดีเพียงไร ยังคงเป็นคำถามสำคัญ ที่ผ่านมาแม้หน่วยงานของรัฐจะมีมาตรการ ขยายฉลากที่ปิดซองบุหรี่ให้เป็นภาพน่ากลัว ใหญ่ขนาดไหนก็ตาม คนบางส่วนก็ยังสูบ และในสถานท่องเที่ยวยามค่ำคืนหลายแห่งในกรุงเทพ ปิดป้ายขนาดใหญ่เพื่อบอกภัยของบุหรี่ แต่คนก็ยังสูบในสถานที่นั้นๆ เช่นกัน…
หากผู้บริหารรัฐบาล ผู้เกี่ยวข้องในกระทรวงสาธารณสุข หรือประชาชนที่ติดตามข่าวสาร ชมโฆษณาตัวนี้ แล้วต้องมองให้เห็นถึงปัญหาที่ซ่อนอยู่ ในหมึกสีดำที่ผลิตจากปอดคนสูบบุหรี่ ครับ
คลิปนี้ ได้รับทุนสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งข้อมูลของเขาจะต้องแม่นยำพอควร คลิปบอกเองว่า 90% ของคนสูบบุหรี่อยากเลิกสูบแต่ทำไม่ได้ โดยที่ องค์กร สสส. นี้ เป็นหน่วยงานของรัฐ จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ.2544 กลุ่มผู้บริหารก็เป็นลูกศิษย์ของผู้อาวุโสสามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา และ องค์กรได้รับเงินโดยตรงจากบริษัทเหล้า บริษัทบุหรี่ ในอัตราร้อยล่ะ 2 ต่อปี ภาษีส่วนนี้เรียกกันว่า “ภาษีบาป”
หากดูข้อมูลเพิ่มเติมจากสำนักข่าวไทยพับลิก้า (ที่มา http://thaipublica.org/2015/05/thaihealth-2015/) จะพบว่า บริษัท บุหรี่ และยาสูบเองต้องจ่ายภาษีให้ สสส. อัตราเพิ่มขึ้นทุกปี และเบ็ดเสร็จ 13 ปี ได้รับเงินบาปจากบุหรี่และยาสูบ มากกว่า 35,000 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีเหล้าและอื่นๆ) การที่ภาษีบาปเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้ประชาชนจำนวนหนึ่ง ตั้งคำถามว่า สสส. ทำหน้าที่ไม่ประสบความสำเร็จใช่หรือไม่ หรือ ตั้งใจไม่ทำหน้าที่ให้สำเร็จ เพื่อจะได้รับเงินจากภาษีบาปเพิ่มมากขึ้น ไปเรื่อยๆ
ก่อนหน้านี้ในช่วงกลางปี 2558 ยังมีบัตรสนเท่ห์ เปิดโปง สสส. ว่า ใช้ภาษีบาปฟุ่มเฟือย – และให้ทุนสนับสนุนแต่คนหน้าเดิม รวมทั้ง งบประมาณที่ใช้ไม่สามารถตรวจสอบได้
ผู้จัดการ สสส. คนปัจจุบัน ก็ถูกตรวจสอบ ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีไม่เอาผิดกับเจ้าหน้าที่ของ สสส. ที่ขโมยเช็คไปขึ้นเงินมูลค่า 1 ล้านบาทโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เหตุเกิดขึ้นเมื่อปี 2554
และเมื่อย้อนไปปี 2551 สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เคยจัดทำรายงานตรวจสอบการดำเนินงานของ สสส. พบว่า สสส. ไม่มีแผนในการดำเนินงานด้านการสร้างเสริมสุขภาพในระยะยาว – แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิคนเดียวกันเป็นกรรมการในคณะกรรมการหลายคณะ – สสส. ให้เงินอุดหนุนแผนงาน/ชุดโครงการ/โครงการในระยะต่อมาโดยรายงานผลประเมินภายนอกที่เป็นทางการยังไม่แล้วเสร็จ
“การใช้จ่ายเงินของ สสส. ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร กรณีอนุมัติให้เงินอุดหนุนจำนวนมากแก่แผนงาน/ชุดโครงการ/โครงการเชิงรุกที่มีรายละเอียดไม่ชัดเจนเพียงพอ ทำให้มีเงินคงเหลือจากการดำเนินงานเป็นจำนวนมาก ทำให้ สสส. เสียโอกาสในการนำเงินดังกล่าวไปใช้ในการอุดหนุนแผนงาน/ชุดโครงการ/โครงการเชิงรุกที่มีความจำเป็นอื่นๆ” และ “การไม่กระจายตัวของภาคีเป็นการไม่เปิดกว้างให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถมีโอกาสแข่งขันด้วยความเสมอภาคและความเท่าเทียมกัน” จากรายงาน สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน
ดังนั้น คำถามจากผู้เขียน คือ เมื่อ สสส. ทำงานในลักษณะเสี่ยงต่อการมีประโยชน์ทับซ้อนเช่นนี้ และไม่ได้ลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ได้จริง (ยังไม่นับเรื่องเหล้าและการส่งเสริมสุขภาพอื่นๆ ที่ถูกตั้งคำถามว่าล้มเหลวเช่นเดียวกัน) แล้ว การที่เรามี สสส. ไว้ เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินหรือไม่ครับ? ระยะเวลา 13 ปี รายได้ภาษีสรรพสามิตยาสูบและสุราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากปี พ.ศ.2545 ได้รับภาษี 85,637 ล้าน บาท จวบจบปี พ.ศ.2557 ได้รับภาษี 202,214 ล้านบาท เข้าไปแล้ว สะท้อนว่าบริษัทบุหรี่ บริษัทสุรา มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล น่าสงสัยว่า ผู้บริหาร สสส. เองได้ตระหนักหรือมีการปรับเปลี่ยนท่าที่การบริหารจัดการเงินแผ่นดินบ้างหรือไม่? และ ก็เป็นเรื่องน่าคิดว่า เมื่อคนที่ได้ภาษีบาป มีหน้าที่ต่อต้านที่มาของภาษีบาป เขาจะทำหน้าที่หรือไม่ เพราะถ้าเขาทำ งบประมาณที่เขาได้รับก็จะลดลง
|
||
หรือ เราจะมี สสส. ไว้เพียงเพื่อผลิตคลิป หมึกสีดำจากปอดคนสูบบุหรี่ และภาพยนตร์โฆษณาหลายต่อหลายเรื่องของ สสส. จริงๆแล้วก็ได้รับคำชื่นชม ในหลายวาระ เพราะเป็นภาพยนตร์โฆษณาที่เข้าถึง โดนจิตโดนใจผู้ชม ลักษณะเดียวกันนี้ แต่ กิจการสุรา ยาสูบในประเทศไทยยังคงมั่งคั่ง คนยังป่วยจากยาเสพติดถูกกฎหมายประเภทนี้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน และทำให้รัฐบาลต้องจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อรักษา เยียวยา ทุกฝ่ายควรต้องตั้งคำถามว่า ทิศทางการขับเคลื่อน สสส. เพื่อลดการบริโภค สุรา ยาสูบ ทั้งหลายนี้ ถูกทางแล้วหรือ
วอนท่านนายกรัฐมนตรี และ รัฐบาล ที่เคยชนะใจประชาชน คนทำงานสุขภาพทั่วประเทศ ในเรื่องการสั่งย้าย เลขาธิการ สปสช. (ตระกูล สอ เช่นเดียวกันกับ สสส.) เพราะมีเรื่องบกพร่องในการบริหารจัดการเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีการใช้จ่ายเงินผิดวัตถุประสงค์ ขัดกฎหมาย จ่ายเงินให้องค์กรนอกกฎหมาย ตกแต่งบัญชี มีประโยชน์ทับซ้อน จากการตรวจสอบของ คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) สิ่งที่ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ทำในตอนนั้น เป็นประโยชน์ต่อวงการสาธารณสุขมาก
ขอร้องให้รัฐบาลได้ปฏิรูป สสส. เช่นกันครับ ปรับกฎหมาย ให้งบประมาณถูกนำไปใช้อย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพมากขึ้น, ย้ายกลุ่มคนที่เสี่ยงต่อการไม่สุจริตออกไป ให้การบริหารกองทุนใช้เงินได้อย่างฉลาดและตรงวัตถุประสงค์มากขึ้น จะเป็นคุณูปการต่อสุขภาพของประชาชน และเป็นผลดีต่อสุขภาพประเทศ ไม่ให้ใครมากินปอดกินตับประเทศได้ง่ายๆครับ
—————
เกี่ยวกับผู้เขียน :
ชเนษฎ์ ศรีสุโข
เป็นหมอคนหนึ่งที่ไม่สูบบุหรี่ และ ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับหน่วยงานภาครัฐ
สนใจเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ
ยามว่าง มักถูกปรึกษาเรื่องสุขภาพ และโรคผิวหนัง