เมื่อวาน (3 สิงหาคม 2558) ไปงานเลี้ยงเกษียณอายุราชการ บุคลากรสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร งานจัดที่อำเภอบางมูลนาก หลังจากช่วงเช้าที่ อาจารย์องคมนตรี ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย มาถ่ายทอดปรัชญาการใช้ชีวิต และเล่าเรื่องที่มา ที่ไป การที่ท่านได้ผลักดันจังหวัดพิจิตรให้เป็นจังหวัดคุณธรรม ก็เพราะพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตั้งแต่ปี พ.ศ.2555
ท่านจึงมาเริ่มทำโครงการโรงเรียนคุณธรรมที่โรงเรียนบางมูลนากวิทยาคม บ้านเกิดของท่าน และขยายตัวไปยังที่ต่างๆ ทำแล้วนักเรียนเก่งดี มีความสุขมากขึ้น สอบติดเข้ามหาวิทยาลัยดีมากขึ้น
มีการต่อยอดไปสร้างโรงเรียนอาชีวศึกษา คุณธรรม ที่ จ.ราชบุรีด้วย
หมอณรงค์ ปลัดกระทรวง ก็ผลักดัน โรงพยาบาลพิจิตร โรงพยาบาลตะพานหิน โรงพยาบาลบางมูกนาก โรงพยาบาลชลบุรีให้เป็นโรงพยาบาลคุณธรรม ทำแล้วมีความสุข ลดการใช้จ่ายสิ้นเปลือง
ต่อมาต่อยอดไป จังหวัดเพชรบูรณ์ ทั้งจังหวัด
มีคนที่ทำงานด้านการเกษตรและลงพื้นที่ ตลอด (สงวนนาม) รับไปต่อยอด พัฒนา เกษตรกรคุณธรรม
และกำลังจะมีตลาดนัดคุณธรรมเกิดขึ้นด้วย…
คำว่าคุณธรรม นี้ มิใช่เพียงคำสวยหรู แต่มีหลักการ มุ่งช่วยเหลือผู้ยากไร้ ทำงานในกรอบคิดธรรมาภิบาล รับผิดชอบ โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีประสิทธิภาพ และไม่โกง หลักคิดนี้ ท่านองคมนตรีกล่าวว่าในหลวงเป็นต้นแบบการดูแลราษฎร การเป็นพลเมืองที่ดีคือถ้าเห็นว่าเราทำอะไรที่ดีเพื่อบ้านเมืองได้ ก็ต้องทำ
ส่วนตัวผมเอง
เมื่อวานเห็นพี่ๆพยาบาลที่รู้จักกันมาแต่เด็กได้เกษียณอายุในปีนี้ ตามวัฏจักรการทำงาน ก็รู้สึกยินดีและก็เหมือนรู้สึกถึงการจากลาด้วย
อาจารย์ปลัดกระทรวง ให้เกียรติกวักมือเรียกไปถ่ายรูปด้วย บนเวทีท่านพูดว่า ต่อไปนี้ ท่านก็จะเป็นเพียงนายณรงค์ ไม่ใช่ ปลัด ถึงเวลาถอดหัวโขนแล้ว… และ “กำลังตัดสินใจตอบแทนแผ่นดินต่อไป”
ผู้เขียน ขอเสนอความเห็นว่า ระบบราชการ พอถึงจุดหนึ่งระฆังหมดยก ทุกเดือนกันยายน 2558 เราก็จะมีงานเลี้ยงส่งผู้เกษียณอายุราชการ เราควรจดจำสิ่งดีงามที่คนรุ่นนั้นๆทำไว้ให้กับประเทศชาติ และประชาชน และอโหสิกรรม ในสิ่งที่เคยล่วงเกินกัน คนรุ่นนี้ก็เป็นเสาค้ำยันประเทศให้คนรุ่นหลัง ที่ควรจะบำรุงรักษาประเทศสืบไป
ชีวิตเราล้วนสั้น และไม่แน่นอน การทำงานที่ส่งผลให้ชุมชน ให้สังคมมีความสุข ไม่เอาเปรียบกัน ก็คงจะดี ลาภ ยศ สรรเสริญ เป็นเพียงภาพลวงตา และไม่ใช่คุณค่าของชีวิตที่แท้จริง ความขัดแย้งหลายอย่างเมื่อวางอคติ และผลประโยชน์ทับซ้อนลงแล้ว ก็จะพบว่าทุกคนก็เป็นเพียงปุถุชน เท่าเทียมกัน มีเลือดเนื้อ มีครอบครัว มีคนรัก ญาติพี่น้อง รออยู่ที่บ้านเหมือนกัน
ขอให้ประชาชนไทยทุกคน รักส่วนรวม รักกัน ปฏิบัติต่อกัน ด้วยความเมตตา คือช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และใช้สันติวิธี รักษาจุดร่วม สงวนจุดต่าง ประเทศนี้ก็จะมีความสงบสุขไม่น้อย
