เจ้านกน้อยลายดำ ท้องขาว บนต้นไม้ใหญ่ต้นนั้น…
นกน้อยตัวนี้ เติบโตจากลูกกำพร้า ในป่าใหญ่ และสำนึกบุญคุณในธรรมชาติ ต้นไม้ ลำธาร ที่ทำให้เธอเติบโตมา
แววตาใสซื่อ สีน้ำตาล ดุจอัญมณีสะท้อนแสง บ่งบอกว่าโลกนี้ (ป่า) ล้วนมีสีเขียวสวยสด งดงาม เปรียบดังสวรรค์ของเธอ
เธอ เป็นนกขยัน ที่มุ่งหน้าหาอาหารเลี้ยงลูกๆของเธอ และยังเผื่อแผ่ให้แก่เพื่อนนกรอบข้าง ตลอดมา ไม่หวังสิ่งใด
เธอ สอนเพื่อนนก ถึงวิธีหาอาหาร อย่างใสสะอาด การหาอาหารด้วยตนเอง ไม่เบียดเบียนใคร จึงกลายเป็นธรรมนูญ ในหมู่นกน้อยใหญ่ในป่าแห่งนี้
การเป็น ครู ในหมู่นก ทำให้นกน้อยใหญ่ นับถือเธอ… ความแตกต่างทั้งหลาย ไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ไม่มีการแย่งหาอาหาร หรือการทำร้ายกันใดใด การพึ่งพากันจึงทำให้หมู่นกอยู่อย่างสงบสุขเรื่อยมา เธอยังปกป้องหมู่นกด้วยทุกสิ่งที่เธอมี ทุกครั้งแม้จะบาดเจ็บ ฟกช้ำอย่างไร เธอไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเพื่อนนกของเธอได้
วันหนึ่ง เมื่อ นกน้อย รู้ว่าตนก็เป็นที่พึ่งแห่งนกทั้งหลาย ภายใต้หมวกของแม่นก – ครูนก – ที่พึ่งทางจิตวิญญาณของนกอีกจำนวนหนึ่ง แล้ว
เธอจึง มีเพื่อนใหม่สนใจขอคบหา เพื่อนของเธอเหล่านั้น เป็น พวกอีแร้ง อินทรีย์ นกกระทุง และเหล่านกกา…
เวลาเธอและเพื่อนใหม่ บินไปที่ไหน นกน้อยใหญ่ทั้งหลาย ต่างก้มหัวให้-แสดงความเคารพ เธอเองเชื่อว่าการอยู่ในสถานะ “ที่สักการะ” นี้ได้เป็นเพราะการเกื้อกูลกันของเพื่อนนกทั้งหลายนั่นเอง เธอยิ่งรู้สึกว่าหน้าที่ของเธอคือการตอบแทนเพื่อนนกไปตลอดชีวิต
แต่ ความสำคัญในเรื่อง “ที่สักการะ” นี้อยู่ที่ … เธอ หารู้ไม่ว่า การก้มหัวเคารพของนกน้อยใหญ่ แท้จริงแล้ว อีกส่วนหนึ่ง เพราะตัวสั่นเทา เกรงกลัว บรรดาเพื่อนของเธอต่างหาก
นกน้อยคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ในโลกนี้ มีนกที่กินกันเองอยู่…
ภายใต้หน้าตาใสซื่อบริสุทธิ์ สุภาพ นบนอบ เพื่อนใหม่ของเธอเหล่านั้น ร้องเพลงประสาน เสียงไพเราะไปกับเธอ
นกน้อยทุกวัน ร้องจิ๊บๆ คิดว่าโลกนี้คงสดใส หากบรรดานกรวมใจกันได้ทั่วทั้งผืนป่า คงดี…
แต่เบื้องหลังเธอนั้น ลูกนกในป่าเริ่มหายไปอย่างต่อเนื่อง ประชากรนกลดลงโดยที่ นกน้อยไม่รู้ว่า … เหล่านกกระทุง อินทรีย์ อีแร้ง ทั้งหลายรอบตัวเธอ คือผู้คอยจิกกินลูกนกอ่อนๆ ทั่วป่า คอยสร้างอำนาจบาตรใหญ่ ไม่มีคำว่าความจริงใจ ในหมู่ฆาตรกรเลือดเย็นเหล่านั้น ที่เมื่อมีโอกาส ใช้จะงอยปาก และเขี้ยวเล็บ ควักลูกตา จิกท้อง เอาลำไส้ลูกอ่อน สัตว์น้อยใหญ่ ไม่เลือกสายพันธุ์ ไปรับประทาน เหลือเพียงคราบเลือดทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า
คงได้แต่หวังว่า นกน้อยจะได้เห็นความจริง เหมือนอย่างที่ ฝูงนกตัวอื่นเห็น ที่ไม่ส่งเสียงเพราะความกลัวถูกทำร้าย หาใช่ความเคารพสรรเสริญในความดี เหมือนในอดีตไม่
แม้แต่อีกา ที่บินอยู่ทั้งหลายรอบกายนกอินทรีย์ นกเหยี่ยว นกกระทุง ต่างก็คิดว่าตนเองทำในสิ่งที่ถูกต้อง ผดุงความยุติธรรม ทั้งกลุ่มนกอีกจำนวนหนึ่ง ที่คอยสนับสนุน “กลุ่มผู้นำ” หารู้ไม่ว่าถูกหลอกใช้เพื่อทำลายเผ่าพันธุ์เดียวกัน
…ชะรอยวันหนึ่ง เมื่อป่าเปิดออกสู่โลกภายนอก เหล่าหมู่สัตว์น้อยใหญ่จะไม่ลังเล ที่จะจับนกฝูงนี้ และเพื่อนของเธอ รับประทานให้หมดเสีย ไม่ใช่เพราะความแค้นเคือง แต่ เพราะกลัวการทำร้าย จากเพื่อนของเธอ เหล่านั้น