เข็มสัมพันธ์ครั้งที่ 21- ความประทับใจที่ไม่รู้ลืม ความร้อนระอุ และยุงโหดร้ายชุกชุม
ผ่านกันไป สำหรับ งานกีฬาเข็มสัมพันธ์ ครั้งที่ 21
วันที่ 19-21 ตุลาคม 2550
งานกีฬาเข็มสัมพันธ์ เป็นงานกีฬาที่นักศึกษาแพทย์จากทุกสถาบัน ร่วมกับ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทย (สพท.) จะร่วมกันจัดขึ้นปีละครั้ง
โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนแต่ละสถาบันเป็นเจ้าภาพ
แต่เดิม งานกีฬานี้ จัดขึ้นในตอนเริ่มแรก โดยมีชื่อเรียกว่า งานกีฬาเก้าเข็มฯ ต่อมา ก็เพิ่มเข็มขึ้นตามจำนวนสถาบันแพทย์ เป็นงานกีฬาสิบสามเข็มฯ
และเพิ่งจะมาเปลี่ยนอีกครั้งในปีล่าสุด เนื่องจากมีสถาบันแพทย์เปิดใหม่เพิ่มอีก 4 ที่ ด้วยความที่เกรงว่าจะเป็นยี่สิบสามสิบเข็มสัมพันธ์ จะไล่ชื่อกันไม่ไหว จึงใช้ชื่อว่า งานกีฬาเข็มสัมพันธ์ แทน
ในปีนี้ เจ้าภาพ หากผู้อ่านเป็นนักศึกษาแพทย์ คงจะทราบกันดีว่า คือ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.)
ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว นับว่านิสิตแพทย์ทั้งหลายประสานงานกันจัดงานได้ออกมา ถือว่าดี และไม่น้อยหน้าเจ้าภาพสถาบันอื่นในอดีตแต่อย่างใด (ทั้งนี้ต้องเข้าใจพื้นฐาน ว่า แพทย์ มศว. ปี1ของเขา เรียนแยกกับปี2-3 และเรียนแยกกับภาคคลินิกคือปี4-5-6 และอยู่ห่างกันมาก)
รวมถึงปีนี้ ทางเจ้าภาพประชาสัมพันธ์ข้อมูลได้ดีมาตั้งแต่ก่อนจะถึงงานกีฬา ผ่านเว็บไซต์อย่างสวยงาม ลองเข้าไปเยี่ยมชมได้ครับ
อันนี้คือ Mascot ของงานกีฬาเข็มสัมพันธ์ปีนี้ NagaDoc (มาจาก Naga(พญานาค)+Doc(Doctor))
และเจ้าภาพหัวใส ทำเป็นตุ๊กตาที่ระลึกขายตัวละ 250B ขายหมดเกลี้ยง
ข้าพเจ้าเข้าร่วมงานกีฬาเข็มสัมพันธ์ มาทุกปี ตั้งแต่เป็นน้องใหม่เข้าปี1 จนถึงบัดนี้ สังขารเริ่มร่วงโรย เป็นปี3 พี่ใหญ่ของพรีคลินิก และกำลังจะขึ้นปี4 ในเวลาอันไม่ใกล้ไม่ไกล
สมัยข้าพเจ้าอยู่ปี1 เจ้าภาพจัดงานกีฬาฯคือ ธรรมศาสตร์
สมัยปี2 เจ้าภาพคือเชียงใหม่ ข้าพเจ้ายังจำได้ดีถึงการที่แพทย์หลากหลายสถาบันที่อยู่ในกรุงเทพฯ เหมาขบวนรถไฟชั้นสามทั้งขบวน จากกรุงเทพ ไปเชียงใหม่ ปีที่แล้วเป็นปีที่เหนื่อยกับการเดินทางมาก และกล้องถ่ายรูปของข้าพเจ้าตอนนั้นก็เสีย ทำให้ไม่ได้เก็บภาพงดงามตระการตา ของจาวเจียงใหม่ มาฝากเพื่อนเลยเน้อ
ในสเปซจึงมีอัลบัมภาพถ่ายจากแค่ ตอนสมัย ธรรมศาสตร์ และในปีนี้เท่านั้น
งานกีฬาเข็มสัมพันธ์ นอกจากจะเป็นการแข่งขันกีฬาแล้ว ยังมีเน้นกิจกรรมภาคกลางคืน และการแสดงสวยๆงามๆ แข่งกันโชว์ความอลังการงานสร้าง มาโดยตลอด
กล่าวคือ จะมีพิธีเปิดปิด รวมถึงการแสดงต่างๆ ที่งดงาม อลังการ ระดับสากล (แม้ว่าจะไม่เคยมีสื่อทีวีมาถ่ายทอดสดก็ตาม)
ในส่วนของการแข่งขันกีฬา ทุกๆปีจะมีการแข่งขันกีฬาหลากหลายประเภท และขึ้นอยู่กับเจ้าภาพเป็นผู้กำหนด
ปีนี้ ก็แข่งขันกันหลายอย่าง ตั้งแต่ ฟุตบอล บาสเกตบอล แชร์บอล วอลเลย์บอล ปิงปอง เทนนิส แบดมินตัน เปตอง ว่ายน้ำ กรีฑา ฯลฯ
จริงๆแล้วตอนแรก เป็นที่ฮือฮามาก เพราะเจ้าภาพ มศว. จะจัดให้มีการแข่งขันตีกอล์ฟ และฟุตซอลล์ ในปีนี้
ปรากฏว่าในท้ายที่สุดก็ได้ตัดออกไป (สงสัยจะไม่ค่อยมีคนตีกอล์ฟกัน)
และสำคัญ คือทุกปี มีงานกลางคืน (งานไนท์) และกิจกรรมภาคกลางคืน มีอาหารให้เลือกรับประทานเป็นบู้ท มากมายหลากหลายชนิด หรืออาจเป็นโต๊ะจีนก็แล้วแต่วัน และแล้วแต่เจ้าภาพ
ยังรำลึกได้ดี กับปีที่แล้ว ที่เชียงใหม่ เจ้าภาพเลี้ยงขันโตกด้วย ในงานไนท์คืนที่สอง
และจะมีการแสดงสวยสดงดงาม และเฮฮา สนุกสนาน
ในปีนี้ ความประทับใจสำหรับงานกีฬาเข็มสัมพันธ์ ครั้งที่ 21 ในปีนี้
น่าจะอยู่ที่การแสดงที่เน้นวัฒนธรรมไทยในแต่ละภูมิภาค ซึ่งมีการแต่งกาย และการแสดงฟ้อนรำ ที่งดงาม (มีเซิ้งด้วย)
มีวิดีทัศน์สนุกสนาน และเฮฮา ทั้งจากเจ้าภาพ และการแสดงจากสถาบันที่เปิดใหม่สี่สถาบัน(ปีนี้ไม่ได้ให้ทุกสถาบันส่งการแสดงเหมือนปีก่อนๆ)
และมันส์สุดเร้าอารมณ์ กับวงดนตรี ซึ่งปีนี้ ยอมรับว่าเจ้าภาพ มศว. นั้นเน้นงานไนท์มาก และจัดเป็นการประกวดดนตรีกันเลยทีเดียว ประกวดกันทั้งวัน ในวันแรก เพื่อหาวงสุดยอด สี่วงไปเล่นในงานไนท์คืนแรกเช่นกัน
ข้าพเจ้าระเบิดความมันส์สุดยอด ในตอนกลางคืน
มีเรื่องน่าเสียดายสำหรับคนไม่ได้ไป นั่นคือข้าพเจ้าว่าปีนี้ ถื่นเจ้าภาพ สาวๆ สวยๆ น่ารักเยอะสุดแล้วล่ะครับ
และสำหรับสาวๆจะน้อยใจกัน หนุ่มๆหน้าตาดีนั้น ก็คงต้องยกให้รามาฯ เพราะปีนี้ขนนักร้องหน้าตาดี และคนดูดีมาร่วมงานกันเพียบ
(ลองไปดูอัลบัมภาพได้นะครับ)
สำหรับอุปสรรค และสิ่งที่ทำให้ลำบาก ท้อใจมาก กับงานกีฬาครั้งนี้ ก็มีอยู่บ้าง
ที่หนักหนาสาหัสที่สุดสองอย่าง ทุกคนน่าจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คือ เรื่อง ความร้อน และเรื่อง ยุง
ได้ยินคำเล่าลือจากเว็บเจ้าภาพก่อนไป ว่า ยุงดุสุดๆ ขนาดว่ากัดทะลุยีนส์ได้
และก็ไม่น้อยไปกว่าคำเล่าลือ ยุงที่นี่กัดทะลุเสื้อผ้า และทะลุกางเกงในได้สบาย…!!!
แล้วยุงที่ มศว. องครักษ์นี้ยังแปลกอีกต่างหาก คือกัดแล้วไม่ปล่อย ไม่ว่าเราจะพยายามเอามืดไล่ หรือสะบัดแขนไล่ยุง ยุงก็ไม่บินหนี
เป็นความทรมานมาก เพราะขนาดยาทากันยุง ยาจุดกันยุงก็ไม่สามารถห้ามทัพยุงได้
นอกจากนี้ ยังมีแมลงจำนวนมหาศาลที่เข้ามารุกรานผู้คนตลอดเวลา
โต๊ะจีน ในคืนที่สอง หากใครไม่สังเกตุให้ดี ก็กินแมลงไปกันไม่ถ้วน
อากาศก็ร้อนแสนสาหัสเหมือนอยู่ท่ามกลางทะเลทรายซาฮาร่า ทั้งในตอนกลางวันและตอนกลางคืน
หอพัก แม้ว่าจะดูเฟอร์นิเจอร์เก่าและชำรุดอยู่บ้าง ก็ไม่มีปัญหา แต่ที่ทำให้เหนื่อยมาก คือเป็นห้องพัดลม(มีอยู่ตัวเดียว ไม่ทั่วถึง) และอากาศที่ร้อน ทำให้หลายๆคนนอนกันเป็นศพขึ้นอืดได้ทีเดียว
ดังนั้น หลังจากกลับมาจากงานกีฬาเข็มสัมพันธ์ ข้าพเจ้านอนซม สองวัน ด้วยอาการคันคะเยอทั้งตัว ตุ่มขึ้นทั้งตัว ภูมิแพ้กำเริบหนัก
ท้องเสีย เป็นไข้ เป็นหวัดอีกต่างหาก!!!
หลังจากนั้น วันที่ 24 ตุลาคมก็มีสอบ Pathology ครั้งแรก ซึ่งข้าพเจ้าก็ไม่ได้อ่านไปสอบเลย และก็ได้ผลกรรมจากความขี้เกียจ คือทำข้อสอบไม่ได้ เศร้าแท้ T_T
ประกาศผลรางวัลชนะเลิศ ถ้วยทอง และเหรียญทอง
สำหรับสถาบันข้าพเจ้าเองนั้น ปีนี้ รู้สึกจะไม่ค่อยได้เหรียญ กีฬาอะไรกับเขาเลยสักเท่าไร
การแข่งขันกีฬาหลายประเภท ก็เป็นการแข่งเล่นๆ สนุกสนาน ผิดกับหลายสถาบันที่ทำกันจริงจัง และมีชมรมกีฬาประเภทนั้นๆเลย (เช่น ม.ขอนแก่น นักวอลเลย์บอลอาชีพ และเพศทางเลือก มากมาย น่ากลัวดีแท้ หรืออย่าง มศว. ลงทุนจ้างโค้ชมาฝึกสอนนักฟุตบอลกันอย่างจริงจัง เป็นเดือนๆก่อนแข่งจริง)
ส่วนหนึ่งที่ได้ผลรางวัลดีก็เพราะว่า สถาบันเหล่านั้น รับนักศึกษาแพทย์เข้าเรียนต่อปี เป็นจำนวนมาก อย่าง ขอนแก่น หรือ เชียงใหม่ ก็รุ่นหนึ่งๆ ประมาณ 300 คน (ถ้าเทียบกับสถาบันข้าพเจ้าแล้ว มีแค่ชั้นปีละประมาณร้อยคนเอง)
ปีนี้ถ้วยพระราชทานกีฬารวม เป็นของ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ขอแสดงความยินดีมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
และเป็นการแข่งขันคู่ฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศที่มันส์ และสนุกสนานมาก ระหว่างศิริราชกับ มศว. (ดูได้ที่อัลบัมภาพ)
มาย้อนมองสถาบันตัวเอง เป็นที่ภาคภูมิใจ ว่านักศึกษาแพทย์รังสิต อาจแพ้ที่อื่นๆทั้งในด้านกีฬา หรือด้านวิชาการพรีคลินิก(คณะวิทยาศาสตร์ ม.รังสิต คุณภาพการเรียนการสอนมีปัญหา)
แต่ด้านการจัดการมวลชน การก่อม็อบ ไม่แพ้ใคร!!! (ว่างๆใครที่ยังไม่รู้ อยากรู้จะเล่าให้ฟัง ถึงการต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของนักศึกษาแพทย์รังสิต ท่ามกลางการบริหารงานที่มีปัญหาของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งนี้)
ลืมบอกไปว่า ปีนี้ สถาบันข้าพเจ้า มีที่เชิดหน้าชูตา คือ เรื่องการประกวดขวัญใจเข็มสัมพันธ์ ที่รังสิตได้รางวัลขวัญใจ ชนะเลิศ ทั้งชาย และหญิง รวมถึง ได้รับรางวัล Popular Vote อีกด้วย
ขอปรบมือให้ แปะ แปะ (ในวันงานก็ตะโกนดีใจ กระโดดโลดเต้นไปเยอะแล้วครับ)
เข็มสัมพันธ์ปีนี้ ทำให้ข้าพเจ้าได้รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ หยาดเหงื่อ รอยผิวไหม้ และผื่นคัน อย่างคุ้มค่าครับ
ผ่านมา3ปี มองความหลัง ข้าพเจ้าร่วมงานทีไร ก็เข้าร่วมอย่างเต็มเวลาเสมอ (ถ้ามีเบี้ยเลี้ยง คงได้ค่าล่วงเวลา) คือแม้จะไม่ได้แข่งขันกีฬาอะไรสักเท่าไร แต่ทว่าก็อยู่ตลอดงาน
ทั้งทำในส่วนช่วยเชียร์เป็นกำลังใจ ช่วยแบกน้ำ แบกข้าวของ และช่วยดูแลนักกีฬา หรือน้องๆ
ปีนี้ข้าพเจ้าค่อนข้างจะรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างที่ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ สถาบันของข้าพเจ้า มาเข้าร่วมงานกีฬาเข็มสัมพันธ์กันน้อย
ทั้งที่จัดที่ มศว.องครักษ์ นครนายก ที่ไม่ได้ไกลมาก
และปีนี้ เป็นปีที่ น้องใหม่ปีหนึ่ง ไม่ยอมมางานกัน ก็น่าเศร้าใจ เพราะว่าปกติแล้วแต่ละปี กำลังหลักที่มาร่วมงานก็คือปีหนึ่ง เพื่อมาเปิดโลกทัศน์ และทำให้ได้รู้จักเพื่อนๆร่วมวงการแพทย์ ที่จะสร้างสรรค์สาธารณสุขไทยให้ดีขึ้นในอนาคต
…ก็เลยขอแอบบ่นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม สำหรับข้าพเจ้าเอง ไปงานนี้ก็ไม่ผิดคาด ก็ได้เจอเพื่อนเก่าแก่ เพื่อนๆที่น่ารัก กันหลายคนอยู่ แม้ว่าจำนวนจะน้อยลงจากปีก่อนๆ เนื่องจากเมื่อเพื่อนๆแพทย์ขึ้นปีสูงขึ้น แล้วก็ห่างเหินจากกิจกรรมต่างๆมากขึ้น
และก็ต้อง ขอขอบคุณ เจ้าภาพ และทีมงานจัดงานทุกคน มา ณ ที่นี้ ที่ได้สร้างสรรค์งานดีดีมีความสุขร่วมกัน ของนิสิตนักศึกษาแพทย์ทุกสถาบัน มาร่วมทำกิจกรรมดีดีร่วมกัน และรู้จักการเล่นกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ได้เห็นอะไรดีดี สวยๆงามๆ มากมาย
ขอขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนที่อยู่ตั้งแต่ต้นจนจบ ในงานนี้ หลายๆคนทนลำบาก ปาดหยาดเหงื่อ และอดทน จนจบงาน เพื่อสถาบันของเรา
ขอขอบคุณคณาจารย์ที่ดูแลพวกเรา อ.สุเทพ มงคลเลิศลพ (รองคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ ฝ่ายกิจการนักศึกษา) ,ศ.คลินิก พญ.ประไพพรรณ ศุภจัตุรัส (รองคณบดีแพทย์รังสิต) และ อ.วันเพ็ญ อิ่มเอิบสิน ซึ่งคอยดูแลพวกเรามาโดยตลอด
รวมถึง ขอขอบคุณ อาจารย์แม่ของนักศึกษาแพทย์รังสิต ศ.คลินิก พญ.บุญเชียร ปานเสถียรกุล คณบดีสุดที่รักของพวกเรา ที่แม้ครั้งนี้ท่านจะวุ่นวาย ติดภารกิจประชุม และสุขภาพที่ไม่ค่อยแข็งแรงนัก ท่านก็ส่งกำลังใจมาให้พวกเราเสมอ
และช่วยการอนุมัติงบประมาณสนับสนุน ทั้งในส่วนอุปกรณ์ ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร ทำให้พวกเราฟรีสบายตลอดงาน
สุดท้ายนี้ ขอแสดงความยินดีย้อนหลังกับผลการสอบใบประกอบขั้นที่ 1 รอบเดือนตุลาคม ที่แพทย์รังสิตได้ เพิ่มขึ้น เป็น 38% ก้าวกระโดดจากปกติที่ได้แค่ปีละไม่ถึง10%
ส่วนผลใบประกอบขั้นที่ 2 ก็ขอแสดงความยินดีอีกครั้ง ที่ได้ถึง 99% (ปีก่อน 96%) จัดว่าทำลายสถิติกันเลยทีเดียว
แสดงให้เห็นถึงการช่วยเหลือจากทางวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ที่ อาจารย์บุญเชียรได้จัดติวพิเศษ เพื่อสอบใบประกอบขั้นที่1 มาโดยตลอด และทำให้สถิติดีขึ้นเป็นอย่างมาก
แม้ว่าพรีคลินิก การบริหารโดยคณะวิทยาศาสตร์และมหาวิทยาลัยรังสิตที่มีอำนาจดูแล นศพ.พรีคลินิก จะจัดคุณภาพการเรียนไม่ได้มาตรฐาน และยังมีปัญหาภายในอย่างมากมาย
คณบดีวิทยาศาสตร์และผู้บริหารมหาวิทยาลัยไม่ค่อยดูแลพรีคลินิกพวกเราเท่าไร ทั้งที่โดยหน้าที่และอำนาจจัดการพวกเราทุกอย่าง มหาวิทยาลัยรับเงินจากเราปีล่ะร้อยล้านบาท
แต่ท่านได้ประกาศชัดว่าการดูแลนักศึกษาแพทย์ไม่ใช่หน้าที่ของอาจารย์คณะวิทย์ พรีคลินิกแพทย์จึงไม่เคยพัฒนา
แต่ด้วยการสนับสนุน อาจารย์แพทย์ช่วยนักศึกษาแพทย์(แม้จะถูกทางฝั่งมหาวิทยาลัยหาว่า ก้าวก่ายการบริหารพรีคลินิก)
พิสูจน์ให้เห็นว่าเราแพทย์เอกชนก็มีศักยภาพภายใน และแรงผลักดันที่จะเป็นแพทย์ที่เก่งทางด้านวิชาการมากขึ้น และเจริญเติบโตไปเป็นหมอที่ดูแลรักษาคนไข้ได้เก่งไม่แพ้แพทย์รัฐบาลใดใดในประเทศ
ขอเป็นกำลังใจให้นักศึกษาแพทย์ทุกคน ที่มีต้นแบบอาจารย์หมอ คุณครูผู้เสียสละ เก่ง ดี มีคุณธรรม ได้เจริญตามรอยที่ดี
ขยันตั้งใจเรียน และนอกจากจะเพื่อไปเป็นหมอที่ดีแล้ว ยังเป็นคนที่ดีอีกด้วย
แม้ว่าจะมีอุปสรรคอันมากมาย ขอก็ให้ร่วมกัน สามัคคีกันฝ่าฟันทุกสิ่งไปให้ได้
นี่แหละความเป็นสถาบัน ของพวกเรา ไม่ได้อยู่ที่เจ้าของมหาวิทยาลัย(ที่ไม่ใส่ใจพวกเรา ห่วงแต่กระเป๋าเงิน) ไม่ได้อยู่ที่คณบดีวิทยาศาสตร์ แต่อยู่ที่ใจของพวกเราเอง
และขอขอบคุณคณาจารย์ทั้งคณะวิทย์และแพทย์ทุกท่านที่คอยช่วยเหลือ ดูแลพวกเรามาโดยตลอดครับ
“อุปสรรคทำให้คนเป็นคน”
เพราะรู้ซึ้งถึงความยากลำบากของสภาพแวดล้อมในตอนนี้ จึงเป็นแรงผลักดันให้หลายๆคนตั้งมั่น ตั้งใจ พยายามอย่างเต็มที่ ไปสู่จุดหมายชีวิตของตน